1.) แก๊สชนิดหนึ่งมีจำนวน 1 โมล อยู่ในกระบอกสูบที่มีความดัน1 บรรยากาศและอุณหภูมิ25oCเมื่อให้ความร้อนออกจากแก๊สนี้2000 จูล ภายใต้ความดันคงที่ จนปริมาตรเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปริมาตรเดิม จงคำนวณหางานที่เกี่ยวข้อง และการเปลี่ยนแปลงพลังงานภายใน
PV1 = nRT
V1 = nRT/P
V1 = (1 mol) ( 0.0821 L atm mol-1 K-1) (298 K)/(1 atm)
V1 = 24.5 L
เนื่องจากปริมาตรเพิ่มขึ้นเป็น2 เท่าดังนั้น V2 = 49.0 L
W =-PΔV ในกรณีความดันคงที่
W =-(1 atm) (49.0 L -24.5 L)
W =-24.5 atm· L เปลี่ยนหน่วยจาก atm· L เป็นJโดย 1 atm· L = 101.3 J
W = (- 24.5 atm·L)(101.3J)
1atm.L
W =-2481.85 J
จากความสัมพันธ์ตามกฎข้อที่หนึ่งทางอุณหพลศาสตร์ΔU=Q+W แทนค่า Q = -2000 J และW = -2481.85 J
ΔU=Q+ W
ΔU =-2000 J-2481.85 J
ΔU = - 4481.85 J
1.1) ปริมาตรคงที่
ในกรณีปริมาตรคงที่Δ V = Vที่สภาวะสุดท้าย – Vที่สภาวะเริ่มต้น =0
เนื่องจากW =-PΔV และ ΔV = 0 ดังนั้นW= 0 ในกรณีที่ปริมาตรคงที่
จากสมการของกฎข้อที่หนึ่งทางอุณหพลศาสตร์ΔU=Q+W
ในกรณีที่ปริมาตรคงที่ΔU=Q+0=Qv
ΔU = + 2000 J
1.2) ปริมาตรเพิ่มขึ้นเป็น 10 ลิตร โดยความดันคงที่เท่ากับ 1 บรรยากาศ
W =-PΔV ในกรณีความดันคงที่
W =-(1 atm) (10 L – 5 L)
W =-5 atm· L เปลี่ยนหน่วยจาก atm· Lเป็นJ โดย 1 atm· L = 101.3 J
W = (- 5 atm· L) ( 101.3J)
1atm.L
W =-506.5 J
ΔU=Q- PΔ V
ΔU=2000 J-506.5 J
ΔU = 1493.5 J
2.) แก๊สชนิดหนึ่งอยู่ในกระบอกสูบที่มีความดัน 1 บรรยากาศ เมื่อให้ความร้อนแก่แก๊สชนิดนี้ 6000 J ภายใต้ความดันคงที่จนปริมาตรเปลี่ยนแปลงจากเดิม 5 ลิตรเป็น 6 ลิตร จงคำนวณหางานที่เกี่ยวข้องและการเปลี่ยนแปลงพลังงานภายใน
ในกรณีที่ความดันคงที่จะได้ W =-PΔV โดยΔ V = Vที่สภาวะสุดท้าย– Vที่สภาวะเริ่มต้น W = - (1 atm) (6 L – 5 L)
W =- 1 atm· L เปลี่ยนหน่วยจาก atm· L เป็นJ
โดย 1 atm· L = 101.3 J
W = (- 1 atm· L) ( 101.3)
1atm
W =- 101.3 J
จะได้จากสมการΔU=Q+W
ΔU= 6000J - 101.3 J = 5898.7 J
3.) จงคำนวณ H เมื่อน้ำ 1 โมล กลายเป็นไอที่ 100 °C ความดัน 1 บรรยากาศ
H2O(l) = H2O(g)
n = nของ H2O(g) – 0 = 1-0 =1
H = E + nRT
= E + 1 × 8.314 × 373
= E + 3101 J mol-1
4.) ปฏิกิริยา H2(g) + 1/2 O2(g) = H2O(l) ที่ 25 °C ความดัน 1 บรรยากาศ มีค่า H เท่ากับ -285 KJ จงคำนวณ E
n ของปฏิกิริยานี้ = 0- (1 + 1/2) = -1 1/2
H = E + nRT
-285,000 = E - 3/2 × 8.314 × 298
E = - 285,000 + 3,716 J
= - 281.284 J
= - 281 KJ
5.) จงคำนวณ G ในปฏิกิริยา N2O(g) + 1/2 O2(g)ที่ 298 , °H = -81.6 KJ, S = 75.3 J K-1
G = H – T S
= -81,600 – 298 × 75.3 J
= -81,600 - 22,439
= -104 KJ
G มีเครื่องหมายเป็น – แสดงว่า N2O ไม่เสถียร ควรจะสลายได้เองให้ N2และO2 แต่เมื่อนำมา N2O มาใส่ในภาชนะทิ้งไว้ที่ 298 K ก็ไม่อาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ เพราะอัตราการสลายนั้นช้ามากที่ 298 K แต่เมื่อเพื่ออุณหภูมิให้สูงๆหรือเมื่อใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาช่วย ปฏิกิริยานี้จึงจะเกิดขึ้นได้รวดเร็วจนสังเกตได้ชัดเจน ดังนั้น แม้อุณหพลศาสตร์จะช่วยทำนายปฏิกิริยาจะเกิดได้หรือไม่ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่คือไม่ได้กล่าวถึงเวลาหรืออัตราการเกิดปฏิกิริยา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น